7 วิธีรักษาสิว ด้วยตัวเองที่บ้าน ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เงินเยอะ

7 วิธีรักษาสิว ด้วยตัวเองที่บ้าน ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เงินเยอะ

แชร์เรื่องนี้

วิธีรักษาสิว เรื่องสิวนั้น เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ แล้วก็แบบน่ารําคาญมากเลยนะ ถ้าเกิดแบบ อยู่ดี ๆ มีสิวขึ้นมาบนหน้า มันทั้งเจ็บทั้งทำให้เสียความมั่นใจ เพราะฉะนั้น วันนี้เราก็จะมาดูกันซิว่า มีวิธีอะไรกันบ้าง ที่จะช่วยรักษาสิวบนใบหน้าของท่านแบบง่าย และเวลาน้อย

วิธีการรักษาสิวด้วยตัวเอง

1.องุ่นแดง

องุ่นแดง

ก็ต้องบอกว่าการใช้องุ่นนะครับ ผลองุ่นเนี้ยแหละครับผม มาทำความสะอาดหน้าเนี้ย ใช้ยังไง ก็ต้องบอกว่ามี วิจัยปี 2016 นะครับ จากทางสถาบันผิวหนังของสหรัฐอเมริกา บอกว่าบนผิวหรือเปลือกองุ่นเนี้ยนะครับ มีสารที่ ฆ่าเชื้อ เชื้อตัวเนี้ยเนี่ย เป็นเชื้อที่ทำให้ก่อให้เกิดสิว สารที่บนผิวขององุ่นเนี่ย ก็จะทำให้เชื้อตาย ลดน้อยลง เพราะฉะนั้นสิวก็เกิดน้อยลง คราวนี้ถามว่า แล้วจะเอาองุ่นเนี่ยมาทำยังไง ก็เอาองุ่น ออกจากตู้เย็นของท่านครับ แล้วก็ หั่นครึ่งครับนะครับ

แนะนําว่าเป็นองุ่นแดง สีแดง ๆ ตัดครึ่งปุ๊บ แล้วก็เอามาถูหน้าครับ สัก 2-3 ลูกนะครับ ตัดครึ่งแล้วก็ มาถูหน้า ถูหน้า ถูหน้า เสร็จแล้วเนี่ย ก็ให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น นะครับ แนะนําให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น ก็จะทำให้ตัวเชื้อที่ทําให้เกิดสิวเนี่ย ลดน้อยลง และอาการสิว ที่เป็นไม่มากนักของท่านเนี่ย ก็จะดีขึ้นครับ อันนี้ก็ลองดูครับ ง่าย ๆ ไม่เสียหายใช่มั้ยครับ แต่เวลาถูแล้วอย่าลืมล้างหน้านะครับบางคนถูทิ้งไว้ เป็นชั่วโมงครับ ก็ไม่ไหวครับ มดมากัดหน้านะครับ

2.แตงกวา

แตงกวา

ก็คือเขาเรียกว่า cucumber face mask หรือว่า มาสก์หน้าที่เป็นแตงกวานะครับ คือโดยปกติเนี่ย แตงกวาเราก็ เวลาเราไปสปา ก็จะมีหั่นแตงกวามาแปะตาใช่มั้ยครับ ก็จะทำให้ตาที่เราบวมตุ่ย ไม่ค่อยได้รับนอนตามเวลาเนี่ยนะครับ มันยุบบวมนะครับ ก็ดูดีนะครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วเนี่ย

ในแตงกวาเนี่ยนะครับ มันมีส่วนผสมหลายอย่างนะครับ ซึ่งจะทำให้ ผิวของเราเนี่ยชุ่มชื้นนะครับ แล้วก็ลดการระคายเคืองต่าง ๆ ลดบวมหรือว่าเจ็บปวดต่างๆ ซึ่งสิวเนี้ยมันเกิดจากการอักเสบ เมื่อเราลดการอักเสบลงนะครับ สิวก็จะดีขึ้นครับ และนี่ก็คือ แตงกวานั่นเองครับ มาต่อกันครับ

3.น้ำผึ้ง

น้ำผึ้ง

หรือ มาสก์หน้า ด้วยน้ำผึ้งนั่นเองครับ คือจะเป็นแบบซื้อสําเร็จรูปก็ได้นะครับ หรือว่าจะเป็นน้ำผึ้งจริงๆ ก็ได้ครับ ซึ่งมันจะมีวิธีอยู่ ส่วนวิธีของการทำนั้น ทุกท่านลองไปกดอินเตอร์เน็ตดูได้ มีวิธีทำเยอะแยะเลยนะครับ สำหรับ มาสก์น้ำผึ้งนะครับ คือต้องบอกว่าตัวน้ำผึ้งเนี้ย มีการวิจัยเลยนะครับ ใช้รักษาโรคได้เยอะ โดยเฉพาะพวกแผลโดนไฟไหม้นะครับ แผลโดนไฟไหม้เอย แผลต่างๆ เอย ตัวน้ำผึ้งเนี้ยสามารถช่วยรักษาได้ดีพอสมควรเลย

รวมทั้งยังมีวิจัยว่าตัวน้ำผึ้งเนี้ย สามารถหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อที่ทำให้เกิดสิวได้ เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามเราเอาน้ำผึ้งมาโปะบนหน้าเราเนี่ยนะครับ ทำเป็นมาสก์โปะบนหน้าเราเนี่ย ก็จะเป็น วิธีรักษาสิว ที่ทำให้เชื้อที่ทำให้เราเกิดสิวเนี่ย มันไม่เจริญเติบโตครับ ซึ่งก็จะทำให้อาการสิวต่างๆ ของเราเนี่ย ลดลงตามลำดับ แล้วก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ และนี่ก็คืออย่างที่ 3 ครับ ฮันนี่มาสก์หรือว่ามาสก์หน้าด้วยน้ำผึ้งนั่นเองนะ

4.โยเกิร์ต

โยเกิร์ต

ก็คือมาสก์หน้าด้วยโยเกิร์ตนะครับ หน้าด้วยโยเกิร์ตเนี้ย คือต้องบอกงี้ โยเกิร์ตนี่จะกินก็ดี จะแปะหน้าก็ดีนะครับ ถ้ากินก็มีโปรไบโอติกนะครับ มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ โปรตีนก็ดีนะครับ ขับถ่ายดี ลดมะเร็ง โอ้โห ดีเลิศประเสริฐศรี นะครับ สําหรับโยเกิร์ต แต่คราวนี้เราจะเอาโยเกิร์ตมาบํารุงหน้าเราบ้างนะครับ ก็ต้องบอกว่า ให้ใช้ในคนที่มีสิวและหน้ามันมาก ๆ นะครับ

โดยพวกโยเกิร์ตเนี่ย จะออกฤทธิ์ทําให้ความมันบนใบหน้าเนี่ยลดลงด้วยนะครับ แล้วก็การอักเสบต่าง ๆ จากสิวเนี่ยลดลงด้วยนะครับ วิธีใช้ครับ ทํามาส์กด้วยโยเกิร์ต แล้วก็แปะหน้าทิ้งไว้นะครับ ประมาณสัก 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นก่อนนะครับ ให้เชื้อเนี่ยมัน หน้าตามันสะอาดนะครับ

แล้วตามด้วยน้ำเย็นครับ ล้างด้วยน้ำเย็นซ้ำเพื่อปิดรูขุมขนของเรานะครับ ทำให้รูขุมขนเรากระชับด้วยนะครับ อันนี้ก็จะทำให้หน้าเราเนี่ย ทั้ง สิว สิวหายแล้วก็หน้าเด้งดึ๋งดั๋งนะครับ โอ้โหดีมากๆ ครับ คราวนี้มาดู วิธีรักษาสิว ชนิดที่ 5 ของเรากันบ้างครับ

5.ข้าวโอ๊ต

ข้าวโอ๊ต

การมาสก์หน้าด้วยข้าวโอ๊ตนะครับ ซึ่งตัวข้าวโอ๊ตเนี้ย ก็สามารถที่จะลดการอักเสบของผิวหน้าได้เป็นอย่างดีครับ รวมทั้งให้ความชุ่มชื้นของผิวหน้าได้ดีมากๆ เลย ทั้งยังลดคัน ลดผื่นแพ้ ต่างๆ นะครับ ก็จะทำให้ผิวหน้าเนี่ยชุ่มชื้นด้วย ก็ต้องบอกงี้ครับว่า ตัว มาส์กหน้าข้าวโอ๊ตเนี่ย

เมื่อไหร่ก็ตามที่มันสามารถลดการอักเสบของ ผิวหน้าได้ การอักเสบของสิวก็จะลดลงด้วยครับ เมื่อผิวหน้าชุ่มชื้นเนี่ย มันก็ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของ พวกสิวหรือว่าไขมันอุดตันต่างๆ ก็จะน้อยลงครับ สิวก็จะน้อยลงครับ อันนี้ก็คือมาส์กหน้าด้วยข้าวโอ๊ตนั่นเองครับ มาต่อกันที่ชนิดที่ หกครับ ก็คือ

6.ขมิ้น

ขมิ้น

สมุนไพรไทยนี่แหละครับ ขมิ้นเนี้ย สรรพคุณเพียบนะครับ มากมาย เราคงไม่ต้องลงลึกรายละเอียดกัน เพียงแต่ว่า ตัวขมิ้นเนี้ยนะครับ ชาวอินเดียเนี้ยนะครับ ชอบใช้มาก ในการที่จะใช้ หน้านะครับ ก่อนพิธีแต่งงานของเขา เพราะว่า มันมีสารที่เป็น หรือว่าลดการอักเสบนะครับ เชื้อโรคต่างๆ ที่เกาะอยู่บนใบหน้าเรา

ลดความมัน ลดผื่นคัน ลดระคายเคืองของหน้านะครับ ซึ่งก็ ได้ผลดีมากๆ นะครับ สำหรับการใช้มาสก์หน้าด้วยขมิ้น ซึ่งวิธีทำสามารถค้นหาในอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมได้นะครับ ว่าทำยังไง ก็ลองใช้กันดูนะครับ

7.ไข่ขาว

ไข่ขาว

ก็นําไข่ขาวเนี้ยนะครับ มาผสมกับน้ำมะนาวนิดหน่อยนะครับ แล้วก็คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นนํามามาสก์หน้าของเรานะครับ แล้วเราก็ลอกตัวไข่ขาวนี้ออก เหมาะมากนะครับ สำหรับผิวหน้าที่แบบค่อนข้างมันนะครับ อันเนี้ยเทคนิคนี้ดีนะครับ แล้วก็ พวกสิวเสี้ยนอุดตัน สิวหัวดำเนี้ย ตัวไข่ขาวเนี้ย มันก็พอมันเป็นแผ่นใช่ไหมฮะ เวลาลอก ตัวพวก อ่า สิวเสี้ยนเนี้ย ก็จะหลุดตามไปด้วย ซึ่งก็หาได้ง่ายใช่ไหมครับ ไข่ขาวก็มีอยู่ในบ้าน น้ำมะนาวก็มีอยู่ในบ้าน อยู่ในสวนนะครับ ก็สามารถที่จะ เอาลองมาทำกันได้นะครับ แล้วก็ไม่เสียเงินเสียทองนะ

สูตรต่างๆ เนี้ย ผมบอกเลยว่ามีอยู่ในอินเทอร์เน็ตเยอะแยะนะครับ สำหรับสูตรพวกนี้นะครับ อันเนี้ยก็มาพูดว่า เออ มัน มันมีผลอย่างงี้ มีรายละเอียดของสารแต่ละอย่างนะครับ ซึ่งที่แนะนําไปเนี่ย ก็สามารถลองใช้ได้นะครับ แต่ก็ต้องบอกตามนี้ก่อนครับว่า สูตรหลาย ๆ อย่างที่เล่ามาให้ฟังเนี่ย เจ็ดอย่างนั้นเนี่ย มันก็อาจจะได้ผล กับคนบางคน และอาจจะไม่ได้ผลกับคนบางคน เพราะฉะนั้นก็ต้องลองดู แต่ที่เล่ามาเนี่ย ก็มักจะ ไม่ค่อยเป็นอันตรายต่อผิวหน้านะ เพราะว่ามันเป็นวิธีธรรมชาตินั่นเองครับก็ถ้าเกิดสมมุติว่าไม่ได้แพ้จนรุนแรงนักก็ จะไม่มีปัญหาแล้วก็ค่อนข้างปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลจากช่อง Youtube : Doctor Top

สรุปท้ายบท

ถ้าเกิดเราใช้ วิธีรักษาสิว ด้วยตัวเองที่บ้านแล้ว 2-4 สัปดาห์แล้วอาการมันไม่ดีขึ้นเลย ควรพบแพทย์นะครับ เพราะว่าบางอย่างเนี้ย มันมีสาเหตุเช่น ฮอร์โมนนะครับหรือว่าเป็นโรคอะไรรึเปล่า สิวก็อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วถ้าเรารักษาได้ตรงจุด หน้าเราก็จะสวยใสนะครับ ถ้ายิ่งปล่อยให้นานนะครับ เวลาเป็นแผลเนี้ย มันจะไม่หายนะครับ จะเป็นรอยคล้ำบ้าง จะเป็นแผลเป็นบ้าง เพราะฉะนั้นถ้าเป็น 2-4 สัปดาห์แล้ว แนะนําให้พบแพทย์ผิวหนังครับ


แชร์เรื่องนี้