เมื่อกระเพาะอาหารของเรามีอาการอักเสบหรือว่ามีแผลในกระเพาะอาหารเนี้ย ก็จะทำให้เราเนี้ยมีอาการปวดท้องขึ้นมา ต้องบอกเลยครับว่า จะทรมานมากๆ นะครับ รักษาแล้วไม่หายสักที ดังนั้นครับวันนี้หมอหมีเลยจะมาแนะนํา 6 วิธีดีๆ ในการที่จะรักษาแผลในกระเพาะอาหารให้หายขาด
วิธีการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
1.รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
การที่เรารับประทานอาหารไม่ตรงเวลาครับเมื่อถึงเวลานะครับ น้ำย่อยในกระเพาะของเราก็จะหลั่งลงมาเมื่อไม่มีอาหารลงไป น้ำย่อยมันก็จะไปย่อยเนื้อกระเพาะของเรานั่นเอง นานวันเข้าก็จะทำให้เกิดแผลขึ้นมานั่นเอง ดังนั้นแนะนําว่าใครที่รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ให้เปลี่ยนพฤติกรรมนะครับให้รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อนะครับแล้วก็ตรงเวลา เช้า กลางวัน เย็นนะครับ ก็จะทำให้แผลในกระเพาะของคุณหายได้ครับ
2.ให้งดอาหารเผ็ดจัดและเปรี้ยวจัด
เพราะว่าอาหารที่เผ็ดจัดจัดหรือว่าอาหารที่เปรี้ยวจัดๆ เนี้ยนะครับ ก็จะไปเพิ่มกรดในกระเพาะนะครับยิ่งกระเพาะของเราเนี้ยมีกรดมากขึ้นมากขึ้น ก็จะทำให้แผลของเราไม่หาย หรือว่าบางคนทำให้เกิดแผลมากขึ้นด้วย ดังนั้นแนะนําว่าให้เราหลีกเลี่ยงเลยครับ อะไรที่เผ็ดๆ เนี้ยให้หลีกเลี่ยงไปก่อนเลยแล้วก็อะไรที่เปรี้ยวๆ บ้างนะครับ ส่วนมากก็อาจจะเป็นพวกน้ำมะนาว น้ำส้มนะครับ
3.งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
แอลกอฮอล์และบุหรี่เนี้ยเป็นปัจจัยหลักเลย ที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้นะครับ ดังนั้น แนะนําว่าให้หลีกเลี่ยง ซึ่งบางคนเนี้ยเป็นในกระเพาะอาหารแล้ว ยังไปดื่มแอลกอฮอล์เรื่อยๆ เรื่อยๆ บางคนกระเพาะทะลุได้เลยทีเดียว ดังนั้นหมอหมีแนะนําเลยครับว่าใครที่กําลังเป็นแผลในกระเพาะอาหารอยู่ หรือว่าอ่าเป็นกระเพาะอาหารอักเสบ ให้หลีกเลี่ยงเลยครับพวกแอลกอฮอล์แล้วก็การสูบบุหรี่ครับ
4.หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs
ไม่ว่าจะเป็น Ibuprofen, Naproxen, Ponstan นะครับ ยาเหล่านี้ จะไปทำให้กระเพาะของเราเนี้ยระคายเคือง แล้วก็ทำให้เกิด ในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นแนะนําว่าถ้าเรามีอาการปวดที่ไม่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นปวดหัวปวดหลังปวดเข่า ที่ไม่รุนแรง แนะนําว่าให้รับประทานเป็นยาแก้ปวดในกลุ่มพาราเซตามอลก่อนนะครับ
แต่ถ้าใครมีอาการปวดรุนแรง ทานยาพาราไม่หายสักที แนะนําว่าให้พบแพทย์ก่อนนะครับไม่ควรที่จะไปซื้อยาในกลุ่ม มารับประทานเองเพราะว่าการรับประทานยาในกลุ่ม NSAIDs มากเกินไปหรือว่าติดต่อกันในระยะเวลาที่นานเกิน เนี้ยก็จะส่งผลไม่ดีต่อร่างกาย นอกจากแผลในกระเพาะอาหารแล้วยังทำให้เกิดโรคไตเสื่อมได้นะครับ
5.ให้ทานของสุกสะอาด
ให้หลีกเลี่ยงของสุกสุกดิบดิบเลยนะครับ การที่เราทานอาหารไม่สุก ก็อาจจะมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียตัวหนึ่งที่ชื่อว่า H.Pylori (เฮชไพโรไรด์) ซึ่งไอเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ เมื่อเราติดเชื้อแล้ว จะทำให้กระเพาะของเราเป็นแผลได้ บางคนกระเพาะทะลุได้เลยทีเดียวหรือ บางคนเนี้ยมีเลือดออกในกระเพาะเลยทีเดียวนะครับ ดังนั้นแนะนําว่าให้เรารับประทานอาหารที่สุกสะอาด ก็จะเป็นการป้องกันนะครับไม่ให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ครับ
6.รับประทานยาลดกรด
ยาลดกรดเป็นยาที่ใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แล้วก็กระเพาะอาหารอักเสบโดยตรงเลย ซึ่งหลายคนเนี้ยไม่ค่อยให้ความสำคัญนะครับ เวลาไปพบคุณหมอแล้วคุณหมอจ่ายยาลดกรดมาให้นะครับ อาจจะทานยาไปแค่วัน 2 วันอาการดีขึ้นแล้ว ยานะครับจากนั้นก็กลับมาปวดอีกนะครับ ดังนั้นแนะนําว่า ให้รับประทานยาตามที่คุณหมอสั่งให้ครบนะครับ
โดยเฉพาะยาลดกรดเนี้ยนะครับ โดยปกติแล้วเนี้ย ยาลดกรดคุณหมอก็จะจ่ายมาอย่างน้อยเนี้ยอาจจะทาน 2 สัปดาห์นะครับ หรือว่า 4 สัปดาห์บางคน 8 สัปดาห์เลยทีเดียว ดังนั้น แนะนําว่าให้รับประทานให้ครบนะครับก็จะทำให้แผลในกระเพาะอาหารของคุณหายได้นะครับ
5 สัญญาณเตือนว่าคุณมีแผลในกระเพาะอาหารแล้ว
อาการปวดท้องแบบโน้น หรือว่าอาการปวดท้องแบบนี้เนี่ย แบบไหนที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่า เราเป็นแผลในกระเพาะอาหารแล้วนะครับ เดี๋ยวหมอหมีจะมาแนะนํานะครับว่ามี 5 สัญญาณนะครับ ที่จะเป็นตัวบ่งบอกนะครับว่าคุณเนี้ยเป็นแผลในกระเพาะอาหารแล้ว
1.มีอาการปวดท้องสัมพันธ์กับมื้ออาหาร
โดยปกติตำแหน่งกระเพาะอาหารของเราก็จะอยู่บริเวณด้านบน แล้วก็จะเยื้องบริเวณด้านซ้ายของเรา เวลาปวดท้องก็จะปวดบริเวณนี้แหละครับ ซึ่งเวลามีอาการปวดก็คือจะมีอาการปวดสัมพันธ์กับมื้ออาหารนะครับ พูดง่ายง่ายก็คือหิวก็ปวด ทานอาหารลงไปก็ปวดท้องนะครับ เพราะว่าเวลาเราหิวนะครับ กรดในกระเพาะอาหารของเราก็จะหลั่งออกมามากขึ้นนั่นเอง
พอเวลากรดหลั่งออกมามากขึ้น ก็จะไปย่อยบริเวณ ของเรานั่นเอง ก็ทำให้เราปวดท้องมากขึ้น และยิ่งเวลาเรารับประทานอาหารเข้าไปนะครับ อาหารก็จะไปโดนแผลของเราอีกก็จะยิ่งปวดมากขึ้นอีกนะครับ ดังนั้นใครที่มีอาการปวดท้องสัมพันธ์กับมื้ออาหารนะครับ หิวก็ปวด ทานอาหารลงไปก็ปวดให้สงสัยได้เลยครับ ว่าคุณอาจจะเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือว่ามีแผลในกระเพาะอาหารแล้วก็ได้ครับ
2.มีอาการปวดท้องแบบบีบบีบ
ใครที่มีอาการปวดท้องแบบบีบบีบแบบปื๊ดคลาย ปื๊ดคลาย แล้วก็ปวดบริเวณมุมขวาบนของท้องแบบนี้คุณอาจจะเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารแล้วก็ได้นะครับ โดยปกติเนี้ยกระเพาะของเราก็จะมีการบีบตัว ดังนั้นเวลาปวดเนี้ยมันก็เลยจะปวดเป็นแบบบีบบีบนะครับ ไม่ใช่ปวดตลอดเวลานะครับ
ลองสังเกตตัวเองดูถ้ามีอาการปวดท้องสัมพันธ์กับมื้ออาหาร ร่วมกับมีอาการปวดท้องบีบบีบแบบนี้นะครับ ให้คิดเอาไว้เลยครับว่าคุณอาจจะมีแผลในกระเพาะอาหารแล้วครับ
3.มีอาการอาเจียนเป็นเลือด
ถ้าเราเป็นแผลในกระเพาะ มากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รับการรักษาหรือทำการแก้ไขนะครับ ก็จะส่งผลทำให้แผลนั้นน่ะลึกลงเรื่อยๆ พอลึกลงไปเรื่อยๆ เนี้ยก็จะทำให้มีอาการเลือดออกมา พอเลือดออกมาก็จะทำให้เราอาเจียนออกมาเป็นเลือดได้นะครับ ดังนั้นถ้าใครอาเจียนเป็นเลือดให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่า คุณเนี้ยอาจจะเป็นแผลในกระเพาะอาหารหรือว่ากระเพาะอาหารทะลุแล้วก็ได้
4.ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
ใครที่ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นสีดำ ไม่ใช่แบบถ่ายอุจจาระดำแข็งๆ นะครับ อุจจาระออกมาเป็นแบบดำๆ เป็นเหนียวๆ เป็นยางมะตอยแบบนี้ แสดงว่าคุณอาจจะมีเลือดออกในทางเดินอาหารแล้วก็ได้ เพราะว่าเวลาเลือดออกในกระเพาะอาหารของเราแบบนี้ เลือดออกมากระเพาะอาหารของเราก็จะย่อยไอตัวเลือดที่ออกมานะครับ
ดังนั้นเวลาเลือดที่มันลงมายังบริเวณทวารหนักของเรา ก็จะทำให้กลายเป็นสีดำขึ้นมานั่นเองครับ ดังนั้นใครที่ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำให้คิดเอาไว้เลยครับว่า คุณมีเลือดออกในทางเดินอาหารของเรา และอาจจะเกิดจากแผลในกระเพาะอาหารของเราได้ครับ
5.มีอาการท้องอืด
ใครที่มีอาการท้องอืด ทานอาหารได้แป๊บหนึ่งก็อิ่มแล้ว แบบนี้ทานได้นิดๆ หน่อยๆ ก็อิ่มแล้ว คุณอาจจะเป็นแผลในกระเพาะอาหารแล้วก็ได้นะครับ เพราะว่าเวลากระเพาะอาหารของเราอักเสบ หรือว่ามีแผลในกระเพาะอาหาร ก็จะทำให้กระเพาะอาหารของเราบีบตัวได้ช้าลง อาหารที่อยู่ในกระเพาะอาหารก็จะไปที่ลําไส้เล็กได้ช้าลง ก็จะทำให้เกิดแก๊สมากขึ้น
แล้วพอ 4 ชั่วโมงปกติ เนี้ยอาหารควรจะไปแล้วนะครับ แต่ถ้ามีแผลในกระเพาะหรือว่ากระเพาะอาหารอักเสบเนี้ย อาหารก็ยังค้างอยู่ พอ 4 ชั่วโมงไปเราทานอาหารอีกรอบแหละ ก็จะยิ่งสะสมกันไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้คุณมีอาการท้องอืดขึ้นมานั่นเอง ดังนั้นสัญญาณหนึ่งที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าแผลในกระเพาะอาหารก็คือท้องอืดนั่นเองครับ
ขอบคุณข้อมูลจากช่อง Youtube : หมอหมี เม้าท์มอย , หมอหมี เม้าท์มอย
สรุปท้ายบท
ทั้งหมดนี้ก็เป็น วิธีรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ด้วยตัวเอง ไม่ให้กลับมาเป็นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ว่าเรามีสัญญาณของแผลในกระเพาะอาหาร หรือมีอาการเตือน แนะนำว่าให้รีบทำการรักษาตั้งแต่ตอนนี้เลย ดีกว่าปล่อยเอาไว้ ยิ่งรู้ตัวเราเท่าไหร่ การรักษาก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น