อาหารป้องกันมะเร็งลำไส้ เป็นอาหารที่เราควรรับประทานทุกวัน เพราะมะเร็งลำไส้เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด ยิ่งทุกวันนี้ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารเป็นพิเศษ เรามาดูกันว่ามีอาหารประเภทใดบ้างที่เราควรรับประทาน
อาหารที่ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ดีที่สุด
1.เนื้อปลาทะเล ปลาน้ำจืด และอกไก่
การทานเนื้อปลาและอกไก่ จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ง่ายขึ้น ต่างจากการทานเนื้อสัตว์อื่นๆ เช่น เนื้อแดง เนื้อติดมัน จึงลดการเกิดการอักเสบในลำไส้ ฉะนั้นควรเปลี่ยนจากการรับประทานเนื้อแดง มาเป็นเนื้อปลาทะเล ปลาน้ำจืด และอกไก่ ที่ย่อยง่าย ทานง่ายดีกว่า เพราะเป็นแหล่งรวมโปรตีนที่มีประโยชน์กับร่างกายไม่แตกต่างกันด้วย
2.ผักและผลไม้ทุกสี
ผักและผลไม้แต่ละสีจะมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน มีวิตามินที่แตกต่างกัน การรับประทานครบทั้ง 5 สี จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด ผักที่ควรทานได้แก่ แครอท กะหล่ำปลีสีม่วง มะเขือ บร็อกโคลี่ ขมิ้น คะน้า เป็นต้น ในผักเหล่านี้มีสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ที่ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ ได้ด้วย
3.น้ำมันมะกอก
การรับประทานน้ำมันมะกอกแทนน้ำมันพืชชนิดอื่น ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในลำไส้ และไม่ทำให้มีไขมันเกาะในลำไส้อีกด้วย ฉะนั้นควรเปลี่ยนจากการทานน้ำมันพืชธรรมดา มาเป็นน้ำมันมะกอกจะดีที่สุด แม้ว่าจะราคาแพงกว่า แต่ก็มีประโยชน์กับร่างกายสูงกว่าด้วย
4.ธัญพืชและถั่วชนิดต่างๆ
เพราะว่าในธัญพืชและถั่วจะมีไฟเบอร์สูง ช่วยป้องกันอาการท้องผูก เป็นแหล่งรวมของโปรตีนวิตามินหลายชนิด และยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ป้องกันไขมันเกาะในลำไส้ และโรคมะเร็งลำไส้ด้วย ควรรับประทานให้ได้ทุกวันจะดีที่สุด
5.โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
ข้อดีของการทานโยเกิร์ต ร่างกายจะได้รับจุลินทรีย์ที่ดีแค่โปรไบโอติก ทำให้ระบบการย่อยอาหารในลำไส้สมบูรณ์ ป้องกันอาการท้องผูกและลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ แต่ให้เน้นเป็นรสธรรมชาติจะดีที่สุด
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้
เมื่อเราทาน อาหารป้องกันมะเร็งลำไส้ แล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยงด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการทานอาหาร เพราะหากเรายังทานอาหารอะไรที่เสี่ยงอยู่ โอกาสที่จะเกิดโรคมะเร็งลำไส้ก็ยังมีอยู่เช่นกัน อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่
- อาหารที่มีการแปรรูป
เพราะว่าในอาหารเหล่านี้จะมีการปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ และยังมีการใส่สารที่เป็นอันตรายกับร่างกายด้วย เช่น สารกันบูด สารเพิ่มสีและกลิ่น เมื่อเรารับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไปบ่อยๆ ก็จะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งลำไส้ ควรรับประทานนานๆ ครั้งหรือไม่ทานเลยจะดีที่สุด
- ขนมกรุบกรอบ
ขนมเหล่านี้ก็ผ่านกระบวนการแปรรูปมาเช่นเดียวกัน และยังมีเครื่องปรุงมีสารอันตรายผสมมาด้วย ฉะนั้นควรทานให้น้อย หรือทานนานๆ ครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับลำไส้ และโรคอ้วน
- เนื้อแดง เนื้อติดมัน
การรับประทานเนื้อแดงบ่อยๆ หรือเนื้อติดมัน จะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานหนัก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย และมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้
- อาหารประเภทปิ้งย่าง
น้ำมันที่หยดลงบนถ่านร้อนๆ จะทำให้เกิดควันและมีรอยไหม้ติดอยู่ที่อาหาร ซึ่งสารเหล่านี้เรียกว่า Polycyclic Aromatic Hydrocarbons เป็นสารก่อมะเร็ง ฉะนั้นเมื่อเรารับประทานอาหารปิ้งย่าง ที่มีรอยไหมเกรียมบ่อยๆ เช่น หมูปิ้ง เนื้อย่าง สารเหล่านี้ก็จะเข้าไปสะสมในร่างกาย นำมาซึ่งสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้
ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ควรเลือกทานอาหารอย่างไร
ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ สิ่งที่ต้องเปลี่ยนทันทีก็คือเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารของตัวเองใหม่ โดยให้เริ่มต้นรับประทาน อาหารป้องกันมะเร็งลำไส้ และหลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยง มีอาหารประเภทใดบ้างที่ควรระวัง
- อาหารที่มีรสเผ็ด อาหารที่มีรสเผ็ดจัด นอกจากจะทำให้รู้สึกเผ็ดร้อนที่ปากแล้ว ยังส่งผลเสียกับกระเพาะอาหารและลำไส้ด้วย จึงไม่เป็นผลดีกับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ให้ทานรสอ่อนๆ จะดีที่สุด หรือเผ็ดน้อยจะดีกว่า
- เนื้อสัตว์ หรือเนื้อติดมัน อาหารประเภทนี้ควรรับประทานให้น้อย เพราะว่าจะทำให้ลำไส้ย่อยลำบาก และอาจมีสารก่อมะเร็งอื่นๆ เพิ่มมาอีก เป็นอาหารที่ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ควรหลี่ยง หรือลดให้น้อยลง
- การดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กัดกร่อนในลำไส้
- งดอาหารที่มีแป้งและน้ำมัน เช่น อาหารฟาสต์ฟู๊ดอย่าง มันทอด โดนัท ไก่ทอด เป็นต้น ซึ่งไม่เป็นผลดีกับผู้ป่วย
อาการของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้
ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ จะมีอาการแสดงออกมาให้เห็น ซึ่งอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ได้แก่
- ระบบขับถ่ายผิดปกติ เช่น มักมีอาการท้องผูกบ่อยๆ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ
- ถ่ายเป็นเลือด อาจจะเกิดจากมะเร็งในลำไส้เกิดการลุกลาม
- ท้องอืดบ่อย
- อาเจียนเป็นเลือด
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการปวดบริเวณหน้าท้อง
สาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้
มะเร็งลำไส้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- อายุที่มากขึ้น คนที่อายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป มีโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ได้มากกว่าคนอายุน้อย
- กรรมพันธุ์ หากคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้มาก่อน ทายาทก็มีโอกาสเป็นได้เช่นกัน
- โรคอ้วนและโรคเบาหวาน คนที่ป่วยเป็นโรคเหล่านี้ มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้มากกว่าคนปกติ
- คนที่สูบบุหรี่หรือสูดดมควันบุหรี่เป็นเวลานานๆ
- คนที่ติดแอลกอฮอล์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ
- รับประทานอาหารที่มีความเสี่ยง และมีประโยชน์น้อยเช่น อาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
แนวทางการป้องกันมะเร็งลำไส้
โรคมะเร็งลำไส้สามารถป้องกันได้ แค่ทำตามวิธีต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงกับร่างกาย ไม่รับประทานตามใจชอบ
- เลือกทาน อาหารป้องกันมะเร็งลำไส้ อย่างสม่ำเสมอ
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาทีขึ้นไป ช่วยให้ร่างกายมีแข็งแรงและสุขภาพดี
- ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ให้อ้วนเกินไป จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้
- ไม่เครียด เพราะความเครียดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง และอีกหลายๆ โรค ฉะนั้นพยายามทำจิตใจให้ผ่องใส และมีความสุขอยู่เสมอจะดีที่สุด
สรุปส่งท้าย
ทุกวันนี้มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างเป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ ฉะนั้นต้องดูแลตัวเองให้ดีตั้งแต่ตอนนี้ โดยเฉพาะเรื่องของการทานอาหาร ควรหันมารับประทานอาหารป้องกันมะเร็งลำไส้ตั้งแต่ตอนนี้จะดีที่สุด รวมถึงการไม่ทำพฤติกรรมที่เสี่ยงอย่างอื่น เท่านี้ก็ทำให้เราห่างไกลจากโรคร้ายนี้ได้แล้ว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาหารป้องกันมะเร็งลำไส้
โรคมะเร็งลำไส้ อันตรายถึงชีวิตได้เลย หากไม่ได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้เลย ยิ่งถ้ามะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว โอกาสที่จะกลับมามีชีวิตปกติยิ่งเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นควรป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้จะดีที่สุด
ทุกคนสามารถรับประทานอาหารป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าเพศไหนหรือวัยไหน เพราะโรคนี้มีโอกาสเกิดได้ทุกคน การทานอาหารที่ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ตั้งแต่วันนี้ ย่อมดีกว่าไม่ได้ทานเลย โดยเฉพาะคนที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ยิ่งต้องรับประทานทันที เพราะโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้มีสูงกว่าคนที่อายุยังน้อย นอกจากจะรับประทานอาหารแล้ว ก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงด้วย จึงจะทำให้ได้ประโยชน์จากการทานอาหารสูงสุด
วิธีที่จะทำให้เรารู้ทันมะเร็งลำไส้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้นั้น ต้องทำการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้กับโรงพยาบาล เพราะบางครั้งการตรวจสุขภาพประจำปี อาจไม่ละเอียดเพียงพอที่จะทำให้ทราบว่าเป็นมะเร็งลำไส้หรือไม่ ฉะนั้นควรมีการตรวจคัดกรองอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งจะดีที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัยทอง นอกจากนี้เราก็ต้องหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ว่าเรามีอาการอะไรผิดปกติหรือไม่ หากมีอาการใดผิดสังเกต ให้รีบพบแพทย์ทันที