12 วิธีช่วยให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งตับ

12 วิธีช่วยให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งตับ

แชร์เรื่องนี้

เรากินอะไรเข้าไป ร่างกายของเราก็เป็นอย่างนั้น คำนี้เป็นคำที่จริงที่สุด โรคมะเร็งตับนั้นร้ายแรง หากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปไม่ส่งผลดีกับร่างกาย ก็จะส่งผลให้ร่างกายได้รับผลกระทบหลายอย่าง รวมถึงเป็นสาเหตุของการเกิดโรคด้วย และหนึ่งในโรคที่เกิดจากการการรับประทานเข้าสู่ร่างกาย ก็คือโรคมะเร็งตับ ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก เป็นแล้วมีโอกาสถึงตายได้เลย จึงอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับโรคชนิดนี้ให้มากขึ้น เพื่อจะได้หาทางป้องกัน

มะเร็งตับคือ

โรคมะเร็งตับ เป็นโรคที่เกิดจากแบ่งเซลล์ในตับที่เกิดที่ผิดปรกติ และเมื่อเซลล์นั้นแบ่งตัวมากขึ้น ก็จะทำให้กลายเป็นเนื้อร้าย หรือมะเร็งในที่สุด และที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ มะเร็งตับสามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ด้วย ทำให้ผู้ที่ป่วยโรคมะเร็ง มีโอกาสเสียชีวิตสูง มะเร็งตับยังเป็นโรคที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในไทยอีกด้วย เมื่อเทียบกับโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ โดยผู้ชาย จะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง เพราะมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า ทั้งการใช้ชีวิต และการรับประทานอาหาร

สาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งตับ

โรคมะเร็งตับ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และสาเหตุหลักๆ ที่พบได้บ่อย มีดังนี้คือ

  • รับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
รับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
รับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

แอลกอฮอล์ เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายปริมาณมาก ก็จะทำให้ตับอักเสบ ตามมาคือเกิดภาวะตับแข็ง และสุดท้ายก็คือทำให้กลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด คนที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่ดื่ม

  • ติดเชื้อจากไวรัสตับอักเสบชนิด B
ติดเชื้อจากไวรัสตับอักเสบชนิด B
ติดเชื้อจากไวรัสตับอักเสบชนิด B

ไวรัสชนิดนี้จะมาจากการใช้ของร่วมกับผู้ป่วย เช่น การใช้เข็มฉีดยา การมีเพศสัมพันธ์ และการใช้ของใช้อื่นๆ ร่วมกับผู้ป่วย ปัจจุบันมีวัคซีคป้องกันไวรัสชนิดนี้แล้ว สามารถฉีดป้องกันได้

  • โรคอ้วน โรคเบาหวาน
โรคอ้วน โรคเบาหวาน
โรคอ้วน โรคเบาหวาน

ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งตับได้ เพราะไขมันที่เยอะเกินไป หากมีไขมันพอกที่ตับด้วย ก็ยิ่งเสี่ยงทำให้ตับทำงานผิดปรกติ และกลายเป็นมะเร็งในที่สุด

  • การได้รับสารพิษประเภท อัลฟาท็อกซิน
สารพิษ ปนเบื้อนจากอาหาร
สารพิษ ปนเบื้อนจากอาหาร

สารพิษประเภทนี้มักปนเปื้อนมากับอาหาร หากอาหารไม่สะอาด และปลอดภัย ร่างกายก็จะได้รับสารพิษชนิดนี้ เมื่อนานเข้าก็ทำให้กลายเป็นมะเร็งตับได้เช่นกัน

อาการของมะเร็งตับ

ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งตับ ในระยะแรกๆ ที่เป็นโรค ร่างกายจะไม่แสดงอาการอะไรออกมาให้เห็น และจะเริ่มแสดงอาการก็ต่อเมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลาม เมื่อนั้น ก็จะสังเกตอาการต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น อาการของผู้ป่วยที่สังเกตได้คือ

  • มีอาการแน่นท้องบริเวณด้านขวาบน เพราะตับมีขนาดใหญ่ขึ้น
  • เบื่ออาหาร ทานอาหารไม่ได้
  • น้ำหนักตัวลดอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีอาการท้องอืดบ่อย เพราะว่าตับไม่สามารถผลิตน้ำดีได้
  • ผู้ป่วยที่มีก้อนเนื้อที่โต บางครั้งสามารถคลำก้อนบริเวณใต้ชายโครงได้ จะรู้สึกว่าท้องมีขนาดที่โตขึ้น
  • ท้องบวม หรืออาหารท้องมาน
  • มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง

แนวทางในการรักษามะเร็งตับ

ในการรักษามะเร็งตับนั้น จะรักษาตามความรุนแรงของมะเร็ง หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ ก็รักษาก็สามารถทำได้ง่าย และมีโอกาสที่จะหายขาดได้ เพราะเทคโนโลยีในการรักษาทุกวันนี้ทันสมัยกว่าแต่ก่อน แนวทางในการรักษาในปัจจุบันได้แก่

  • การผ่าตัดนิยมใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการยังไม่รุนแรง
  • การใช้ความร้อนเพื่อทำร้ายเนื้อเยื้อมะเร็งตับ
  • การรักษาด้วยหัตถการ เช่น การทำคีโม หรือการให้ยาเคมีอื่นๆ
  • การรักษาด้วยการฉายรังสี
วิธีลดปัจจัยเสี่ยงมะเร็งตับ

จะเห็นว่าโรคมะเร็งตับ เป็นโรคที่ร้ายแรงมาก ในบรรดามะเร็งทั้งหมด เมื่อเป็นแล้วก็มีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงด้วย ฉะนั้นการหาทางป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และวิธีการลดปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับ มีดังนี้คือ

  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อันนี้ถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งตับมากที่สุดอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ เพราะผู้ป่วยจะมีอาการตับแข็งก่อน และตามมาด้วยมะเร็งตับในที่สุด ดังนั้นการงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จึงเป็นวิธีที่ลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด

  • งดกินของหมักดอง
งดกินของหมักดอง
งดกินของหมักดอง

เพราะสารที่เกิดจากขั้นตอนของการหมักดอง จะมีส่วนทำให้เกิดโรคมะเร็งตับได้ ควรทานให้น้อยลง หรือหลีกเลี่ยงไปเลย

  • งดอาหารที่มีไขมันทรานส์
งดอาหารที่มีไขมันทรานส์
งดอาหารที่มีไขมันทรานส์

ไขมันชนิดนี้จะพบได้บ่อยในอาหารจำพวกของหวานเช่น เค้ก พาย คุกกี้ เป็นต้น เมื่อรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์บ่อยๆ จะทำให้มีไขมันพอกตับ และทำให้เป็นตับแข็ง และกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด ควรทานให้น้อยลงหรืองดไปเลยจะดีที่สุด

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารพิษจำพวก Aflatoxin
ถั่วลิสง
ถั่วลิสง

เมื่อร่างกายได้รับสารพิษประเภทนี้บ่อยๆ จะส่งผลต่อตับ ทำให้เป็นมะเร็งตับได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาหารที่มีสาร Aflatoxin ปนเปื้อนเยอะที่สุดได้แก่ ถั่วลิสง เป็นต้น หากรับประทานควรเลือกรับประทานอาหารที่สะดวก และปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยง

  • ไม่ทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน
ไม่ทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน
ไม่ทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน

การทานยาชนิดใดก็ตาม ติดต่อกันเป็นเวลานาน มักจะส่งผลกับการทำงานของตับ ทำให้ตับเกิดความเสียหาย หากมีความจำเป็นต้องใช้ ควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัย

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

เพราะโรคอ้วน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งตับ เพราะไขมันที่เข้ามาพอกในตับ ดังนั้นควรควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินมาตรฐาน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ

  • ไม่ใช่ของร่วมกับผู้อื่น
ไม่ใช่ของร่วมกับผู้อื่น
ไม่ใช่ของร่วมกับผู้อื่น

ของใช้ทุกอย่างควรใช่ส่วนตัวเท่านั้น ไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะเข็มฉีดยา หรือภาชนะใส่อาหารเครื่องดื่ม ที่ต้องมีการเอาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ

  • คนที่เป็นมะเร็งตับ ควรดูแลตัวเองอย่างไร

สำหรับคนที่เป็นมะเร็งตับแล้ว ทันทีที่รู้ว่าเป็นโรคนี้ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองทันทีเลยจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้อาการทรุด หรือเป็นหนักกว่าเดิม โดยวิธีในการดูแลมีดังนี้คือ

  • เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์

อันนี้สำคัญมาก อาหารที่รับประทานควรเป็นอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเท่านั้น และไม่รับประทานอาหารที่เน้นถูกปาก อาหารที่ควรรับประทานได้แก่ อาหารจำพวกผักใบเขียว เพื่อให้ร่างกายมีกากใยเพียงพอ และเพื่อเป็นการป้องกันท้องอืดด้วย ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ พวกของหวาน อาหารที่มีไขมันเยอะ หรือของหมักดองต่างๆ อาหารเหล่านี้ควรงดไปเลยดีที่สุด

  • งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

ไม่เฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เท่านั้นที่ควรงด แต่อาหารหรือว่าเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะแม้จะมีปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็สามารถส่งผลต่อตับได้

  • หลีกเลี่ยงความเครียด
หลีกเลี่ยงความเครียด
หลีกเลี่ยงความเครียด

ความเครียด แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ใหญ่อะไร แต่สามารถส่งผลกับอาการป่วยได้เยอะมาก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนักได้เลย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เครียดให้ได้เยอะที่สุด พยายามผ่อนคลายอารมณ์อยู่ตลอด

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

โดยควรเลือกวิธีการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมเกินไป และต้องเหมาะกับตัวเรา เพื่อให้ร่างกายไม่ทรุดหนัก และทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สิ่งที่ควรทำเพื่อลดความเสี่ยงมะเร็งตับ

วิธีการลดความเสี่ยงที่ดีที่สุดก็คือ การตรวจสุขภาพประจำปี และมีการตรวจคัดกรองมะเร็งตับด้วย เพื่อจะได้ทราบการทำงานของตับ และหากพบความผิดปรกติ ก็จะได้หาทางรักษาได้ทันที เพราะยิ่งรู้เร็วเท่าไหร่ การรักษาก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น และควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน ให้เป็นนิสัย

สรุปส่งท้าย

เพราะมะเร็งตับเป็นโรคที่อันตราย และมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตค่อนข้างสูง ฉะนั้นต้องดูแลตัวเองและหมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ห่างไกลจากโรคนี้ได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมะเร็งตับ

มะเร็งตับสามารถหายได้หรือไม่?

หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถรักษาให้หายได้ ด้วยการผ่าตัด และการปลูกถ่ายตับ

ทำอย่างไรไม่ให้ป่วยมะเร็งตับแบบรุนแรง

ต้องหมั่นตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ หากเจอตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สามารถรักษาให้หายขาดได้ทันที การตรวจคัดกรองจึงมีความสำคัญมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วคนไม่ค่อยให้ความสำคัญ กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งตับ ก็เข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว ทำให้ยากต่อการรักษา

ทานของหมักดองบ่อย และอาหารที่ใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เป็นมะเร็งตับได้หรือไม่?

ได้ การทานอาหารชนิดนี้เป็นประจำ เสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งตับได้ ไม่ต่างจากการรับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยตรง


แชร์เรื่องนี้