มะเร็งผิวหนัง เป็นโรคที่เราไม่ค่อยได้ยินชื่อบ่อยเท่าไหร่นัก ยิ่งในอดีตเราจะแทบไม่ค่อยได้ยินมะเร็งประเภทนี้เลย คนจึงไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป รูปแบบการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ของคน ก็ทำให้โรคชนิดนี้พบได้บ่อยขึ้น และหากเราไม่รู้ให้ทันล่วงหน้า ไม่ป้องกันตัวเอาไว้ล่วงหน้า ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้เช่นกัน วันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักเกี่ยวกับมะเร็งผิวหนังให้มากขึ้น เพื่อจะได้หาทางป้องกันตัวเองเอาไว้
มะเร็งผิวหนัง คืออะไร
โรคมะเร็งผิวหนัง เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปรกติของเซลล์ผิวหนัง ที่มีการแบ่งตัวและแพร่กระจายไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายกลายเป็นเนื้อร้ายหรือโรคมะเร็งในที่สุด ปรกติมักจะเกิดกับผิวหนังที่สัมผัสกับความเสี่ยงบ่อยๆ เช่น ผิวที่โดนแดดบ่อยๆ ก็จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคผิวหนังได้มากกว่าส่วนที่ไม่โดนแดด อย่างเช่นบริเวณใบหน้า และแผ่นหลัง เป็นต้น
ประเภทของโรคมะเร็งผิวหนัง
สำหรับมะเร็งผิวหนังสามารถจำแนกความแตกต่างได้ทั้งหมด 3 ประเภทดังนี้คือ
- มะเร็งชนิดสแควมัสเซลล์ (Squamous cell carcinoma)
ลักษณะของมะเร็งผิวหนังชนิดนี้ จะมีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงอมชมพู สามารถสังเกตเห็นได้ตามผิวหนัง อาจจะขึ้นเป็นจุดตามผิวหนัง หรืออาจจะขึ้นเป็นกลุ่มก็ได้ ผู้ป่วยบางท่านอาจจะมีผิวหนังตกสะเก็ดบริเวณที่มีอาการ และหากเอามือกดบริเวณเหล่านั้น ก็จะมีอาการเจ็บตามแรงกด อาการเหล่านี้จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากไม่มีการรักษา หรือผู้ป่วยไม่รู้ตัว
- มะเร็งชนิดเบซัลเซลล์ (Basal cell carcinoma)
ลักษณะที่สังเกตเห็นได้ชัดของมะเร็งผิวหนังชนิดนี้ก็คือ จะมีตุ่มสีแดงเรียบอมชมพู แต่อาจจะมีความแตกต่างจากมะเร็งผิวหนังชนิดแรกบ้างเล็กน้อย คือชนิดเบซัลเซลล์ จะมีเส้นเลือดฝอยปรากฏขึ้นมาให้เห็นด้วย ตรงบริเวณที่เป็นตุ่มสีแดง ผู้ป่วยบางท่านอาจจะมีเลือดไหลออก หากทิ้งไว้นานๆ จะทำเกิดแผลเรื้อรังอักเสบได้ ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งผิวหนังชนิดนี้ จะไม่ค่อยรู้สึกถึงความผิดปรกติของร่างกายหรือผิวหนังของตัวเอง เพราะว่ามะเร็งชนิดนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ช้ามาก ทำให้ผู้ป่วยไม่ทันสังเกตความผิดปรกติเหล่านี้
- มะเร็งชนิดเมลาโนมา (melanoma)
มะเร็งผิวหนังชนิดนี้จะสังเกตได้ค่อนข้างง่าย สิ่งที่เราสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าก็คือ มะเร็งชนิดนี้จะมีลักษณะเหมือนกับไฟ แต่แตกต่างกันตรงที่ตุ่มชนิดนี้จะโตเร็วกว่าไฟ หรือขี้แมลงเร็วเร็วมาก เวลาที่เอามือลูบไล้ตามร่างกาย จะสัมผัสได้ทันทีว่าผิวหนังไม่เรียบเสมอกัน บางคนก็มีการตกสะเก็ดร่วมได้ และมักจะมีอาการคันอยู่เสมอ ผู้ป่วยจะรู้สึกไม่สบายตัว เพราะอาการคันตามส่วนที่มีอาการ
สาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
ผู้ป่วยบางท่านที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งผิดหนัง ก็เพราะไม่ได้ทันสังเกต และไม่ระวังตัว คิดว่าโรคนี้คงไม่เกิดกับเรา แล้วก็ใช้ชีวิตไม่ระมัดระวัง ฉะนั้นเราจะมาดูปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังกัน ว่าเกิดจากอะไร จะได้รู้ทันและป้องกันเอาไว้ล่วงหน้าได้
- คนที่มีผิวขาว
เพราะว่าคนผิวขาวจะมีเม็ดสีที่ช่วยป้องกันแสงแดดมากกว่าคนผิวเข้ม โดยเฉพาะชาวต่างชาติ
- คนที่ทำงานกลางแจ้งเป็นประจำ
คนที่ทำอาชีพประเภทนี้ แล้วไม่มีการป้องกันให้ดี มักจะเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ โดยเฉพาะส่วนที่โดนแดดบ่อยๆ จะเกิดได้ง่ายที่สุด
- มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมาก่อน
ถ้าคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคชนิดนี้ รุ่นลูกก็มีโอกาสที่จะเป็นได้เช่นกัน และหากมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วย อาการก็จะปรากฏเร็วขึ้น
- คนที่สัมผัสกับกับสารเคมีเป็นประจำ
คนที่ทำงานใกล้ชิดกับสารเคมีเป็นจำ โดยเฉพาะสารเคมีประเภทสารหนู หากไม่มีการป้องกันร่างกายและผิวหนังให้ดี ก็มีโอกาสเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน
- การใช้ยาบางชนิดเกินขนาด
ยาบางชนิด ถ้าหากรับประทานอย่างต่อเนื่อง ก็เสี่ยงทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ โดยเฉพาะยาที่เกี่ยวกับการบำรุงผิวขาว ซึ่งปัจจุบันมีขายอยู่ค่อนข้างมาก ตามโซเชียล ต้องระวังเรื่องเหล่านี้ให้ดี
- ใช้เครื่องสำอางที่มีสารอันตราย
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่มีมาตรฐานการผลิต มักจะมีสารอันตรายเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย หากผู้ใช้ไม่รู้ และเผลอเอาไปใช้ ก็ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ บางรายอาจถึงขั้นเสียโฉมไปเลยก็มี อย่างที่เราเห็นปรากฎตามข่าวอยู่บ่อยๆ นั่นเอง
อาการของโรคมะเร็งผิวหนัง มีอะไรบ้าง
เพื่อให้เรารู้ทันมะเร็งผิวหนัง สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบนร่างกายของเรา ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้รับมือและหาทางแก้ไขทัน อาการที่ต้องระวังก็คือ
- ไฝมีรูปร่างผิดปรกติ ไฝหรือขี้แมลงวันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีขนาดที่ผิดปรกติ มีโอกาสสูงที่จะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง
- เป็นผื่นแล้วไม่หาย คนที่เป็นผื่นแล้วไม่หายสักที แม้ว่าจะทายาแค่ไหนก็ตาม นั่นคือสัญญาณของมะเร็งผิวหนัง
- เป็นตุ่มหรือผื่นแล้วมีเลือดซึม หากมีความผิดปรกติเหล่านี้ แสดงว่าไม่ใช่ผื่นปรกติทั่วไป อาจจะเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนัง
- เป็นแผลแล้วไม่หาย บริเวณที่เคยเป็นแผลมาก่อน แล้วรักษาไม่หายสักที นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนัง
แนวทางในการรักษามะเร็งผิวหนัง
ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านการแพทย์ มีความก้าวหน้าอย่างมาก ดังนั้นการรักษาโรคมะเร็งผิวหนัง จึงมีโอกาสที่จะหายขาดได้ ยิ่งรู้เร็วเท่าไหร่ การรักษาก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น โดยวิธีการรักษามีดังนี้คือ
- การผ่าตัด
- การใช้เคมีบำบัด
- การฉายรังสี
- การจี้ด้วยไฟฟ้า
วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
เมื่อเรารู้อันตรายของโรคมะเร็งผิวหนังแล้ว ก็สามารถหาทางป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ได้ เพื่อไม่ให้ร่างกายของเราต้องเจอกับโรคร้ายชนิดนี้ และแนวทางป้องกันต่อไปนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยได้ ได้แก่
- หลีกเลี่ยงการทำงานกลางแจ้ง หากท่านสามารถหลีกเลี่ยงการทำงานกลางแจ้งได้ ก็ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยง อย่างคนที่มีปัญหาผิวหนังอยู่แล้ว หรือคนที่ชอบแสบร้อนตามผิวหนัง เป็นต้น
- ไม่ทำงานกับสารเคมีอันตราย อาชีพที่ต้องทำงานกับสารอันตราย ถ้าเรารู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ควรหลีกเลี่ยงดีกว่า เพราะเสี่ยงอันตรายกับร่างกายของเรา แม้ว่ารายได้จะดีแค่ไหนก็ตาม
- ทาครีมกับแดดทุกวัน การทาครีมกันแดด ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็สามารถทาได้ จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ดีมากๆ
- ไม่ใช่เครื่องสำอางที่ไม่มีมาตรฐานการผลิต เครื่องสำอางชนิดใดที่เราไม่มั่นใจ โดยเฉพาะที่ขายกันตามท้องตลาดในโซเชียล ควรหลีกเลี่ยงหรือควรดูให้แน่ใจก่อน ว่ามีมาตรฐานจริงหรือไม่ ถ้าไม่ชัวร์ ก็ควรผ่านดีกว่า แม้ว่าจะมีรีวิว หรือคำบอกเล่าดีแค่ไหนก็ตาม เราก็ไม่ควรเอาชีวิตเราไปเสี่ยง
พฤติกรรมที่ช่วยให้ห่างไกลจากมะเร็งผิวหนัง
การทำพฤติกรรมเหล่านี้ จะยิ่งช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคมะเร็งผิวหนังมากขึ้น และรู้ทันการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของเราตลอดเวลา ได้แก่
- หมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ว่าผิวหนังของเรามีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ มีไฝหรือขี้แมลงวันที่ผิดปรกติขึ้นตรงไหนหรือไม่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เจ็บป่วยหรือแพ้ง่าย
- ทานผักผลไม้หลากสีเป็นประจำ การทานผักผลไม้เหล่านี้ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูนอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีก
- การตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะกับแพทย์ผิวหนังโดยตรง เพื่อจะได้ทราบสุขภาพผิวของเรา ว่ามีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งผิวหนังหรือไม่
สรุปส่งท้าย
จะเห็นว่าทุกวันนี้เราอยู่กับความเสี่ยงหลายอย่าง ดังนั้นการหมั่นดูแลตัวเอง เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ต้องตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอยู่ตลอดเวลา จะช่วยให้เราห่างไกลจากมะเร็งผิวหนังได้ หากมีอะไรผิดปรกติ ก็ควรพบแพทย์ทันที
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมะเร็งผิวหนัง
สามารถหายขาดได้ ยิ่งรู้เร็วเท่าไหร่ การรักษาก็ง่ายขึ้นเท่านั้น
ต้องเป็นครีมกันแดดชนิด SPF<30 ขึ้นไปเท่านั้น หากครีมชนิดใดที่ไม่มี SPF ไม่สามารถกันแดดได้
ป้องกันตัวเองทุกครั้งเวลาที่ออกแดด เช่นอุปกรณ์ป้องกันและครีมทาผิว การป้องกันตัวเองทุกครั้งที่ต้องทำงานกับอาชีพที่เสี่ยง จะช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังได้